ชีวิตต้องดีกว่าเดิม ฝึก 7 สิ่งนี้ทุกวัน ชีวิตจะไม่ต กต่ำ

1. รู้จักสิทธิของผู้อื่น

ไม่ใช้กำลัง คำพูด อุบ าย และอำน าจ ทำ ร้ า ย ผู้อื่น

ไม่ลั ก ข โ ม ยของของใคร ไม่ผิ ดลูก ผิ ดเมี ยใครไม่ทำลายสิ่งของอันเป็นที่รักของใคร มีใจสงเคราะห์คนในครอบครัว เพื่อนฝูง ผู้อื่น สังคม และโล กตามกำลังอยู่เสมอ

2. มีความเข้าใจชีวิตตามความเป็นจริง

คือเห็นว่า ชีวิตคือของชั่ วคร าว และสิ่งที่เกิ ดขึ้นในชีวิตคือผลอันเกิ ด

จากการกระทำของเราทั้งอดีตและปัจจุบันบุญบ าปมีจริง การเวียนว่ายมีจริงการพ้ นไปจากการเวียนว่ายมีจริง รู้จักเห็น โ ท ษ

ของความสุขเห็น โ ท ษ ของความทุกข์ เห็น โ ท ษ ของการได้มา เห็น โ ท ษ ของการเสียไป รู้จักกระบวนการทำงานของความคิดและจิต

เห็นหนทางแก้ไขความทุ กข์ที่ถูกต้อง และเดินตามแนวทางที่ถูกต้องซึ่งแนวทางที่ถูกต้องดังกล่าว

ก็จำเป็นต้องมีวิธีศึกษา และปฏิบัติอย่ างถูกต้องด้วย

3. ประกอบอาชีพด้วยความดีและความเพียร

คือไม่ประกอบอาชีพเบี ยดเบียน เอาเปรียบผู้อื่นทั้งทางตรง ทางอ้อม

ไม่ประกอบอาชีพที่ ม อ ม เ ม าผู้อื่นไม่ประกอบอาชีพที่ส่งเสริมให้ตนเองและผู้อื่นเกิดความโ ล ภ โ ก ร ธ หลงไม่ประกอบอาชีพที่ถูกก ฎ หม ายแต่ผิ ดศีลธรรม

ให้ประกอบการงานด้วยความโปร่งใสสุจริตอย่ างเต็มกำลังความสามารถ ประกอบการงานด้วยหลักอิทธิบาทสี่คือมีใจ

รักในงาน มีเวลาทุ่มเทในงาน มีสมาธิจดจ่อในงาน มีการตรวจสอบ ปรับปรุงพัฒนาในงานอยู่เสมอ

4. รู้จักกำจัดจุดดำในใจ

คือรู้จักจัดการ กิ เ ล ส ตั น ห า ของตน ไม่ตกอยู่ใต้อำน าจวัตถุเงินทอง

ละลดความสุขทางก า ม คือละความสุขทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เห็นโท ษของความสุขที่ได้จากกิน ก า ม เ กี ย ร ติ

เพิ่มพูนความสุขทางใจ คือสุขจากสิ่งดีงาม สุขจากสมาธิ สุขจากการวางตนอยู่เหนือสถานการณ์ละความอิจฉา รู้จัก

เมตตา ช่วยเหลือ ยินดี แบ่งปัน และปล่อยวาง

5. จัดสรรชีวิตให้ให้มีความเหมาะสมกับการพัฒนาจิตใจ

คือรู้จักจัดสรรชีวิตให้มีความสั ปป ายะ คือมีความสงบเย็น เรียบง่าย

ไม่ว้าวุ่น คบเพื่อนสงบเย็นคุยในเรื่องสงบเย็น อยู่ในสถานที่สงบเย็น ดำเนินชีวิตอยู่ในกระแสแห่งธรรมไม่ดำเนินชีวิตอยู่ในกระแสตันหา อันเป็นต้นกำเนิดของความเดือดร้อน และโ ง่เ ข ล า

6. พูดจามีธรรม

คือไม่พูดความเท็จ ไม่พูดสอดเสี ยด ไม่พูดจาทำลายน้ำใจบุคคลอื่นไม่พูดความจริงที่ไ ร้ประโยชน์

พูดจาสุภาพ มีประโยชน์ เหมาะสมกับกาลเทศะ

7. รู้ตัวทั่วพร้อม

คือรู้จักกำหนดสติว่าขณะนี้กำลังทำอะไร พูดกับใคร และสิ่งนี้จะมีผลอย่ าง

ไรต่อชีวิตกำลังเดินให้รู้ว่าเดิน กำลังนั่งให้รู้ว่านั่ง กำลังกินให้รู้ว่ากิน กำลังทำสิ่งใดให้รู้สึกตัวอยู่เนื่องๆลมหายใจเข้ารู้ ลมหายใจออกรู้ เห็นความคิด

เห็นความรู้สึก เห็นการเกิ ดดับของความคิดความรู้สึก และความเป็นไปของสิ่งต่างๆ สามารถดำเนินชีวิตโดยใช้สติปัญญาเป็นเข็มทิศนำทาง