คนไม่รักปล่อยเขาไปเถอะ ไม่พูดไม่ด่ า แต่สิ่งที่ต้องทำคือเดินจากไปอย่ างเงียบๆ

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฉันกำลังเดินอยู่บนถนนเล็กๆ ที่สองข้างทางเป็นเ ห ว ฉันเดินตามคนๆ นึง

เดินตามด้วยความซื่ อสั ตย์อย่ างไม่มีข้อแม้ ตลอดทางฉันเห็นแต่แผ่นหลังของเค้า

ฉันก็ตามไปอย่ างเชื่ อใจ เขาก็หันมามองฉันเป็นพักๆ

ฉันเองที่เป็นคนตัดสินใจเลือกมาเดินตามเขา ฉันจึงเดินต่อไปเรื่อย ๆ ระหว่างทาง

ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ได้โ ร ยเ ศ ษแ ก้ วทิ้งไว้บนพื้น ขณะที่เดินตามฉันไม่เคยระวังตัวใดๆ

เพราะตามองอยู่แต่ที่หลังของเค้า ด้วยความไว้ใจ

ฉันรู้สึกเจ็บที่เท้าแล้ว แต่ฉันก็ยังเดินตามต่อ การขอโ ท ษและการให้อภั ยเกิ ดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่เค้าก็ยังทำอีก จนในที่สุดพื้นที่เราเดินก็เต็มไปด้วยเ ศ ษแ ก้ วชิ้นเล็กๆ มากมาย ที่คอยทิ่ มตำเท้าฉันอยู่ตลอดทุกก้าวที่เดิน

แน่นอนว่ามันก็มีบางช่วงที่เป็นพื้นดินธรรมดา บางช่วงที่เป็นพื้นหญ้านุ่ม ๆ บ้าง

แต่เดินไปไม่นานก็กลับไปเจอเ ศ ษแ ก้ วอีก ที่ตลกคือฉันก็ยังคงทนเดินต่อไปเรื่อย ๆ เพราะคิดเสี ย ด าย ที่อุ ตส่าห์เดินตามมาตั้งนานแล้ว

และด้วยความหวังจากเสี ยงของเค้า ที่ตะโกนมาเรื่อยๆ ว่าเค้าจะหยุดการกระทำแบบนี้แล้วนะ ความเ จ็ บ ป ว ดมันเพิ่มขึ้นมาอีก

เมื่อมีเด็กคนนึงเกิ ดขึ้นมา จากที่เดินด้วยน้ำหนักเราคนเดียว

กลายเป็นต้องเดินโดยอุ้ มลูกไว้ที่แขน เพื่อไม่ให้เค้าโดนเ ศ ษแ ก้ วไปด้วย ลูกโตขึ้นทุกวัน น้ำหนักก็มากขึ้นทุกวันตามไปด้วยในที่สุดเราก็เดินมาจนถึงทางแยก 2 ทาง คือทางตรงทางเดิม

ที่แม้จะมีเ ศ ษแ ก้ วปะปร ายให้เห็น แต่ก็ยังคงมีแผ่นหลังที่คุ้นเคย กับรอยยิ้มจริงใจของเค้า ที่เหมือนคอยให้ความหวัง

ว่าเค้ากำลังจะเลิ ก โ ร ยเศษแก้วแล้ว หรือจะเลี้ยวออกไปอีกทาง ที่มันโ ค ร ต มื ดและไม่รู้จะมีอะไรอยู่ข้างหน้า

ในใจคิดว่าไม่ว่าจะเลือกทางไหน เราจะพาลูกไปด้วย ไม่ว่าจะเกิ ดอะไรขึ้น เราจะไม่ปล่อยลูกแน่นอน ที่ทางแยกฉันมองลงไปที่เท้าตัว

เอง ตอนนี้มันดูไม่เหมือนเท้าอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยบ าดแ ผ ลนับไม่ถ้วน

มันเจ็บ มันช า วนไปเรื่อย ๆ วันนี้ ฉันตัดความเสี ย ด ายเวลาที่ผ่านมา ไว้ที่ตรงทางแยกนั้น แล้วเลือกเดินทางใหม่ทางที่ไม่มีใครเดินนำ

หน้า และไม่ได้เดินตามใครอีก มันทั้งโ ค ต ร มื ดทั้งไม่รู้จักเส้นทาง และไม่รู้จะเจอกับอะไรอีก

แต่อย่ างน้อยที่สุด ทางนี้ก็ไม่มีเ ศ ษแ ก้ วอีกแล้ว แน่นอนว่าเมื่อไม่มีเ ศ ษแ ก้ ว

ฉันจึงกล้าที่จะวางลูกลงกับพื้นแล้วจับมือกันเดินแทนการอุ้ม ฉันรู้สึกดีขึ้นอย่ างประหล าด จากที่เป็นแต่ผู้ตามที่ซื่ อสั ตย์

ฉันรู้ทันทีว่าตอนนี้ ฉันต้องมาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแทน ในวินาทีนี้เลย

เพราะฉันกำลังจะมีเด็กอีกคนนึงเดินตามหลังของฉันตอนนี้ฉันยังเดินต่อไม่ค่อยไหวเลย จากนี้ฉันอาจจะนั่งลง

ใช้เวลาในการรักษ าเท้าไปซักพักแต่ไม่นานหรอก ฉันจะลุกขึ้นแล้วเดินต่อ เดินไปในทางที่แ ม่ งโ ค ร ตมื ดนี่แหละ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ฉันยังอยู่ฉันยังไม่เป็นไร ฉันจะไปต่อ ฉันจะไปได้โดยไม่ต้องเดินตามใครอีก และฉันไม่กลัวอะไรอีกแล้ว

…พอมาถึงจุดๆ นึง

   ที่หมดความอดทนแล้ว

   เราจะไม่พูด..ไม่ด่ า

   แต่สิ่งเดียวที่จะทำคือ

   เดินจากไปอย่ างเงียบๆ…

 

ขอบคุณ : bitcoretech