5 วิธีสะสๅงหนี้สินไม่ให้สะสม แล้วคุณจะหลุดพ้ นจากการเป็นหนี้เร็วที่สุด

เราลองมาท่องค าถ าปลดหนี้กันก่อนดีไหม อย่ างน้อยท่องเป็นประจำ ชีวิตนี้ก็น่าจะดีขึ้น เพียงแต่ค าถ านี้ไม่ได้มีบทเดียว

ประกอบด้วย 5 บท จึงขอเริ่มทีละบทก็แล้วกันนะคะ

1. สำรวจหนี้ปัจจุบันว่ามีทั้งหมดเท่าไร และเป็นหนี้จากอะไร

การมีหนี้ไม่ใช่เรื่องที่เล วร้ ายไปเสี ยทั้งหมด หนี้ที่ดีก็มี เช่น หนี้กู้ซื้อบ้านหนี้การศึกษา

หนี้ในการกู้มาเปิดร้านขายของ หรือสต็ อกสินค้าไว้ทำการค้า ในขณะเดียวกันก็มีหนี้ที่ไม่ควรมีแต่มีขึ้นมาแล้ว

เช่น หนี้ที่เกิ ดจากการใช้จ่ายเกินตัว อาทิ หนี้บั ตรเ ครดิ ต หนี้เครื่องใช้ไ ฟฟ้า

หรือแม้กระทั่งหนี้สินเชื่ อรถคันแรกที่เราไปออกรถมาเพียงเพราะได้รับลดหย่ อน

แต่ไม่ได้ดูฐ านะว่ามีความลำบ ากในการผ่อนอย่ างไร เราจึงควรต้องนั่งแยกประเภทหนี้และสำรวจว่าเป็นหนี้เรื่องอะไร

และเงื่อนไขการผ่อนจ่ายและอั ตร าด อ กเบี้ ยแต่ละที่เท่าไร เพื่อจะดูว่าปัจจุบันเรามีหนี้ทั้งหมดเท่าไรและเป็นหนี้อะไรบ้าง

2. ชำระคืนหนี้ที่ด อ กเบี้ ยสูงที่สุดก่อน

ส่วนใหญ่หนี้ที่ด อ กเบี้ ยสูงที่สุด คือหนี้นอกระบบ และหนี้บั ตรเค รดิ ต ซึ่งจะอยู่ประมาณ 18-21% ต่อปี

ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือ หยุดหนี้นอกระบบทั้งหมด และพย าย ามมามีหนี้เฉพาะในระบบเท่านั้น หมายถึงเลือกกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

ไม่ว่าจะเป็นการเอาบ้านเอารถไปจำนองจำนำก่อน เพราะหนี้บ้านหนี้รถ ด อ กเบี้ ยก็อยู่ประมาณ 7-8% ต่อปี ถูกกว่าเป็น 2-3 เท่า

คาถาบทนี้จึงบอกว่าเมื่อเรารู้ว่ามีหนี้ที่ไหนบ้าง สิ่งที่ต้องทำคือ การเลือกชำระหนี้ที่มี ด อ กเบี้ ยสูงให้หมด

และพย าย ามเหลือหนี้ที่มีด อ กเบี้ ยต่ำไว้ อย่ าปล่อยหนี้ด อ กเบี้ ยสูง

เช่น ธนาค ารเขาบอกให้ ท ย อ ยเลือกชำระได้เพียงแค่ 10% แทนที่จะจ่ายคืนทั้งหมดก็จ่ายเพียงแค่ 10% เหลืองเงินเอาไว้

และเอาเงินไปใช้จ่ายอย่ างอื่นที่ไม่จำเป็นแทน

3. สำรวจรายรับและรายจ่าย

การที่มีหนี้บางครั้งเกิ ดจากรายรับและรายจ่ายไม่สัมพั นธ์กัน ถ้าเรายังเอาแต่ก่อหนี้

คือเอาเงินในอนาคตมาใช้วันนี้ ก็ยิ่งทำให้มันไม่สัมพันธ์กันยิ่งขึ้นสิ่งที่ต้องทำคือ สำรวจรายรับและรายจ่าย

และถ้ารายรับน้อยกว่ารายจ่าย สิ่งที่ต้องทำอย่ างเร่ งด่วนคือ การลดรายจ่ายเคยกินข้าวนอกบ้านทุกอาทิตย์

ก็เปลี่ยนเป็นเดือนละครั้ง เคยซื้อเสื้อผ้าใหม่ทุกเดือนก็เป็นเดือนเว้นเดือน กินอยู่ก็ให้ประหยัดขึ้น

และถ้ามีหนี้ก็ต้องมีวินัย เอาเงินไปใช้คืนหนี้ก่อนอย่ าเอาไปใช้จ่าย ในขณะที่เมื่อลดค่าใช้จ่ายอย่ างไร

รายรับก็ยังไม่พออีก ก็ต้องหาวิธีเพิ่มรายรับ เช่น การลุกขึ้นมาหางานทำเพิ่มขึ้น การเข้าใจเรื่องการลงทุน ผลตอบแทนกับความเสี่ ยง เป็นต้น

4. ขอตัวช่วยในการปลดหนี้

สถานะมีหนี้มักลำบ าก แม้จะประหยัดก็ยังไม่สามารถปลดหนี้ได้ ตัวช่วยที่สำคัญคือ ทรั พย์สิ นที่มีและไม่ได้ใช้เอาไปจำนำจำนองก่อนไหม

เพราะโ ร งรับจำนำ ด อ กเบี้ ยคือ 15% ต่อปี ตกเดือนละ 1.25% หรือขายทรัพย์สินนั้นไปเพื่อเอามาใช้หนี้ให้เรียบร้อย

หรือการที่จะออกปากขอยืมเงินจากญาติก่อน เพื่อจะได้ขอเป็นลักษณะจ่าย ด อ กเบี้ ยปีละครั้ง แทนที่จะต้องหมุนเงินเป็นรายเดือน

และสุดท้ายคือทำงานเพิ่ม เพราะรายรับไม่พอก็ต้องหารายรับเพิ่ม ค าถ าบทนี้คือ เริ่มจากการขายทรัพย์สิน

การหาแหล่งเงินกู้ที่มีต้นทุนที่ถูกลง การหารายรับเพิ่มเติมล้วนเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการปลดหนี้ทั้งสิ้น

5. หยุดก่อหนี้เพิ่ม

การหยุดก่อหนี้เพิ่ม คือ ต้องตั้งใจเสมอว่าเราจะไม่ก่อหนี้เพิ่ม ตร าบใดที่เรายังปลดภาระของเดิมไม่หมด ก็อย่ าก่อภาระเพิ่ม

อย่ าลืมว่าลาหลังหักเพียงเพราะฟ างเส้นเดียว บางทีสิ่งที่เราบอกว่า อีกนิดหนึ่งคงไม่เป็นไร อาจจะทำให้หลังเราหักโดยไม่รู้ตัว

ถ้าเราไม่หยุดเราก็จะลำบ ากยิ่งขึ้น และถ้ามีหนี้ก็ขอให้เป็นหนี้ที่ดีที่จะออก ด อ ก ออกผลให้เราในภายภาคหน้า

ไม่ใช่หนี้ในสินค้าฟุ่ มเฟื อยหรือการใช้จ่ายที่ไม่ประมาณตน

สุดท้ายสิ่งที่อย ากจะฝากไว้ ก็คือค าถ าปลดหนี้ที่ดีที่สุดคือตัวเรานั่นเอง เราจะเป็นอย่ างไร มีทุ กข์สุขมากแค่ไหน

ก็เกิ ดจากการที่เราทำตัวของเราเอง คงได้แต่ฝากค าถ าปลดหนี้ไว้ให้ท่าน ๆ

ทั้งหลายได้ท่องเป็นเ ก ร าะป้องกันตัวและคุ้มครองให้ชีวิตมั่นคงและมั่ งคั่ งตลอดไป

 

ขอบคุณ : k a p o o k . c o m