9 เหตุผลความเชื่อเดิมๆ ไม่มีอีกแล้ว..ว่าทำไมเด็กรุ่นใหม่ถึงทำงานได้ไม่นานก็ลาออก
1.”แค่มีงานทำ” ไม่ใช่ความมั่นคงในชีวิตเสมอไป
ค่ า นิ ยมของคนรุ่นก่อน ๆ หลายคนอาจจะชอบมองว่า “การมีงานทำ” คือความมั่นคงและความสำเร็จในชีวิต
เชื่อว่าต้องตั้งใจเรียนเพื่อโตมาจะได้ทำงานในบริษัทที่มั่นคง ได้สวัสดิการที่ดี มีเงินใช้ในบั้นปลายชีวิต
บางคนก็เลือกทำงานที่เงินเดือนน้อยหน่อยแต่มีเงินบำน าญตอนแก่ หรือยอมทนทำงานจนหัวแทบร ะ เ บิ ด
เพื่อรอเลื่อนตำแหน่งโดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่..
แต่เด็กรุ่นใหม่ไม่คิดแบบนั้น เขาโตมาในยุคของเทคโนโลยี ที่ทุกอย่างสะดวก และรวดเร็วไปหมด
ดังนั้นเด็กรุ่นใหม่หลายคนจึงเป็นคนไม่ชอบรอ อย ากเห็นผ ล ลั พ ธ์ ของสิ่งที่ทำให้ไวที่สุด
และถ้าเจอสังคมทำงานแ ย่ ๆ พวกเขาก็อาจไม่ลั งเ ล ที่จะ “ลาออก”
เพราะไม่ได้คิดว่า..การลาออกคือความล้ มเ ห ล วในชีวิต
2.งานที่คิดไว้ ไม่เหมือนกับงานที่ได้ทำจริง
ก่อนจะทำงานที่หนึ่งเป็นธรรมดาที่เราต้องพิจ า ร ณ าภ าพ ลักษณ์ขององค์กร หน้าที่ความรับผิดชอบ เงินเดือน รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ
ที่บอกในหน้าประก าศงาน หรือจากการสัมภาษณ์
แต่เมื่อเข้ามาทำงานจริงแล้ว มีหลายครั้งที่พวกเขากลับพบว่า..มันคือหนั ง คนละม้ ว น
ใน J o b De s c r i p t i on บอกหน้าที่ความรับผิดชอบเท่านี้ แต่พอทำจริงงานที่ไหนไม่รู้เพิ่มมาเต็มไปหมด
เงินเดือนที่เคยขอไว้ก็ไม่สัมพันธ์กับหน้าที่ที่ต้องทำ สวัสดิการที่บอกว่ามีก็ไม่มีเหมือนที่บอก
ให้ทำงานเกินเวลาแต่ก็ดันไม่ได้โอที พูดง่าย ๆ คือหลายอย่างไม่ใช่แบบที่เห็น หรือตกลงกันเอาไว้ในตอนแรก
ถ้าเจอบริษัทแบบนี้พวกเขาก็เลือกที่จะไปดีกว่า
4.การทำงานอยู่ที่เดิมนาน ๆ เงินเดือนขึ้นไม่เท่าเปลี่ยนงาน
ปฏิเ ส ธไม่ได้ว่า.. เด็กรุ่นใหม่มีการเปลี่ยนงานมากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ มาก
ซึ่งเขามองว่าใคร ๆ ก็อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
ดังนั้นเขาจะอยู่ต่อก็ต่อเมื่อบริษัทให้ค่ า จ้างคุ้มค่า
กับงานที่ทำ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เงินเดือนไม่สมเห ตุสมผลกับงานที่ทำ
พวกเขาก็พร้อมออกถ้าได้รับข้อเสนอจากที่ใหม่ที่ดีกว่า อีกทั้งการปรับขึ้นของเงินเดือนตามมาตรฐานของบริษัท
เพิ่มขึ้นไม่เยอะเท่าการย้ ายงานที่เงินเดือนขึ้นได้อย่างก้าวกระโ ด ด
อย่างที่บอกว่าเด็กรุ่นใหม่เป็นประเภทไม่ชอบรอ.. รวมถึงชอบการท้าทายตัวเองด้วย
พวกเขามองเงินเดือนเท่ากับความสามารถ คนเก่งก็ต้องได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่ากับความสามารถถึงจะถูก
5.มีงานอื่นที่สร้างเงินได้ไม่น้อยกว่า “งานประจำ..”
เด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแคร์ว่าต้องทำงานที่มีหน้ามีตาในสังคม ตำแหน่งหน้าที่สูง ๆ
หรือต้องรับราชการเหมือนที่คนรุ่นก่อน ๆ คิดพวกเขามองว่าไม่ว่าจะทำงานอะไร ถ้าสุดท้ายแล้ว
ผ ล ลั พ ธ์ มันทำเงินได้ไม่ต่างกันก็ถือว่าประสบความสำเร็จได้
6.คนอื่นไม่รับฟัง เพราะคิดว่าพวกเขาเป็นแค่ “เด็ก”
บางองค์กรยังยึ ด ติ ดกับความคิดในแบบเดิม ๆ ว่าคนรุ่นใหม่ยังไม่โตพอ ทำให้บ่อยครั้งหัวหน้างาน
เลือกที่จะไม่รับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของเด็กรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเสนอไอเดียอะไรไปก็ถู ก ป ล่ อยผ่าน
เพราะคิดว่าก็เป็นแค่เด็กรุ่นใหม่คนนึงที่ยังไม่มีประสบการณ์การทำงานเมื่อเทียบกับคนทำงานคนอื่น ๆ
7. ผู้ใหญ่บางคนชอบเอาเปรียบ เพียงเพราะตัวเองอยู่มาก่อน
เด็กรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยถูกเอารั ด เอาเปรี ย บในที่ทำงานเพียงเพราะตัวเองอายุน้อย
ไม่ว่าจะเป็นถูกหัวหน้าโย น งานมาให้แต่ไม่เคยสอนว่า..ต้องทำยังไง
ให้ช่วยทำงานจิป าถะมากเกินไปทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ เจอระบบอาวุโสที่เกินกว่าเห ตุ มีการแบ่ง พ ร ร ค
แบ่ง พ ว ก ทำให้รู้สึกว่าในที่ทำงานแห่งนี้ไม่มีความเสมอ ภ าคเลย พวกเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะลาออก
8.อยู่ทำไมถ้าไม่ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เลย
การจะอยู่ร อ ดได้ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เด็กรุ่นใหม่เชื่อว่า..
เขาจำเป็นต้องพัฒนาความรู้และทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ
มีผลสำร ว จนึงบอกว่า ส่วนใหญ่เด็กรุ่นใหม่มีแพลนศึกษาต่อในระดับปริญญาที่สูงขึ้น
รวมถึงต้องการสอบใบ Ce r t i f i c a t e ต่าง ๆ
3.เชื่อว่าถ้ามีความสามารถ ก็มีทางเลือก
เด็ก ๆ สมัยนี้เรียกได้ว่ามีความสามารถมากมาย ทางเลือกในการเรียนไม่ว่าจะรับดับปริญญา
เรียนต่อต่างประเทศ ลงคอ ร์ ส เรียนที่สนใจแบบระยะสั้น
หรือเรียนคอร์สเรียนออนไลน์ บางคนมีศัก ย ภ าพสูงมากจนมั่นใจว่า.. ตัวเองมีความสามารถมากพอ
มีทางเลือกมากมายที่รออยู่ข้างหน้า ดังนั้น
ถ้าเจอหนทางและแนวทางที่ดีกว่า เขาก็ต้องเลือกทางที่ดีกว่าเป็นธรรมดา เพราะพวกเขาคิดว่าการค้นหางานที่ใช่ไปเรื่อย ๆ
น่าจะดีกว่าทนอยู่กับงานที่ไม่ใช่ไปจนแก่
และอาจจะด้วยความที่เติบโตมาท่ามกลางเทคโนโลยีที่หมุ น เร็ว ไม่หยุดอยู่กับที่ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
พวกเขาจึงไม่กลั ว กับความเปลี่ยนแปลง และกล้าที่จะแตกต่าง
9.ต้องการการสนั บ ส นุนในเรื่อง T e c h n o l o g y
เด็กรุ่นใหม่โตมากับเทคโนโลยี แต่ถ้าพวกเขาต้องมาทำงานกับบริษัทที่ไม่ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี
พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองใช้ชีวิตได้ยากขึ้น ขั ดใจว่า
ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทั้งที่เทคโนโลยีจะช่วยให้การทำงานทั้งง่ายและเร็วขึ้นอีกเยอะ
เพราะเด็กรุ่นใหม่มองว่าเทคโนโลยี หรืออุป ก รณ์การทำงานที่ทันสมัยทำให้งานเสร็จได้เร็วขึ้น
และก็อาจทำให้ได้ผ ล ลั พ ธ์ที่ดีกว่าในบางงาน
ขอบคุณที่มา : p a n t i p