7 นิสัยที่ต้องเลิกทำ เพราะเพื่อนร่วมงานไม่ปลื้ม

เชื่อว่า ในทุกๆ ออฟฟิศจะต้องมีอย่างน้อย ก็หนึ่งคนที่เป็น “ที่สุดของความเอือม” เข้ากลุ่มไหน วงแตกที่นั่น

เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วย

1. ใจเขาใจเราคืออะไร.. ไม่รู้จัก!

สำหรับใครที่ชอบนึกดูถูก มองไม่เห็นหัวใคร หรือพูดถากถาง คนอื่นบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย ขอบอกให้รู้เลยว่า

คุณกำลังทำสิ่งที่ แ ย่ และ น่ า รั ง เ กี ย จ มากในความเห็นของคนอื่น หนำซ้ำพฤติกรรมแบบนี้

ยังอาจส่งผลไปถึงการ บ่ อ น ทำ ล า ย องค์กรเลยก็ได้นะ!

นิสัยปากเสียทำให้คุณดูเป็นคนเกรี้ยวกราดไม่น่าเข้าใกล้ ในทางกลับกัน การรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา

รู้จักเข้าอกเข้าใจ คนอื่นก็จะดึงดูดให้ใครๆ ก็อยากเข้าหาคุณ เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกดี รู้

สึกว่าตัวเองมีคุณค่าถ้าเป็นลูกน้อง เขาจะยอมทำงานถวายหัวให้กับคุณหรือถ้าเป็นลูกค้า เขาก็จะรู้สึกดีที่คุณใส่ใจ

และอยากกลับมาใช้บริการบ่อยๆ จนกลายเป็นท็อปแฟนของคุณได้อย่างไม่ยาก

2. โมโห ร้ า ย ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ

ต่อให้คุณมี IQ ฉลาดระดับไอน์สไตน์ ก็อาจไม่สามารถอยู่รอดในสนามธุรกิจได้ถ้าขาด EQ หรือ Emotional Quotient

ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเป็นไปอย่างราบรื่นผลเสียของการมีความฉลาด

ทางอารมณ์ต่ำ เป็นได้ตั้งแต่การสอบตกเรื่องทักษะการสื่อสาร

ทำ ล า ย ความน่าเชื่อถือของตัวคุณเอง ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวคุณ ไปจนถึงเป็น พิ ษ ต่อธุรกิจ

ส่งผลกระทบต่อทุกคน ที่คุณติดต่อด้วยคนที่มี EQ ดีจะสามารถเข้าอกเข้าใจคนอื่น รู้ทันอารมณ์ของตัวเอง

รวมถึงรับรู้ถึงอารมณ์และความต้องการของคนรอบข้างได้อย่างดี

3. หงุดหงิด ขี้บ่น

ไม่มีใครชอบคนที่มองอะไร ก็เห็นแต่เรื่อง แ ย่ ๆ โดยเฉพาะถ้าเห็นแล้วก็มีแต่บ่น ก็จะยิ่งทำให้คนรอบข้างรู้สึก แ ย่

ไม่อย ากจะทำหรือพัฒนา แก้ไขให้อะไรๆ ดีขึ้น

ถ้าคุณมัวแต่หมดพลังงานไปกับการบ่นหรือคร่ำครวญ นั่นหมายถึง คุณเอาแต่เติม พลังลบให้กับตัวเอง

และในขณะเดียวกัน คุณก็กำลังทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คุณอีกด้วย

4. มนุษย์เพอร์เฟคชั่นนิสต์ ยอมไม่ได้ ถ้าเห็นอะไรไม่เป็นอย่างที่คิด

สำหรับมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่บ่นโอดโอย ว่างานหนัก ลองนึงถึงหน้าบอสสุดที่รัก แล้วคิดถึงข้อดีอื่นๆ ของเขาดู

ถ้าบอสของคุณไม่ใช่ประเภท บ้ า อำนาจ ต้องการคอนโทรลทุกสรรพสิ่งให้เป็นไปอย่างที่ใจคิด ก็ต้องบอกเลยว่า

คุณยังโชคดีกว่าอีกหลายคน มากนักในทางกลับกัน

คุณบอสทั้งหลาย ก็ขอให้ลองทบทวนตัวเองดูสักหน่อยว่า คุณเป็นนายประเภทไหน คุณยอมรับได้หรือไม่

ถ้าเห็นอะไรๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด หรือไม่เพอร์เฟคต์อย่างที่ใจอยากให้เป็น ถ้าคุณเห็นแล้วรับไม่ได้

จนถึงขั้นหงุดหงิดสุดๆ แล้วล่ะก็..คงจะถึงเวลาที่คุณต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ทำใจยอมรับกับอะไรๆ ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผนดูบ้าง

5. ใจแคบเท่าพุงมด

ในสถานการณ์ที่เกิด “ความผิดพลาด” คุณมักจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของใคร บางคนเสมอคนบางคนก็มักจะชี้นิ้วใส่คนอื่น

เวลามีอะไรผิด แล้วเขาก็มัก จะมีคำตอบให้กับทุกเรื่อง ที่สำคัญคือ เชื่อแบบผิดๆ ว่าความคิดของตัวเองถูกเสมอ

และไม่ค่อยจะยอมฟังใครซึ่งมันน่าจะดีกว่า ถ้าคุณจะยอมเปิดใจรับฟังคนอื่นบ้าง เพราะการได้ถกเถียง

รับฟังความเห็นกัน มันสามารถสร้างทีมเวิร์กที่ดีได้ ถึงแม้ว่า บทสรุปในตอนท้ายไอเดียของคุณจะยังเป็นทางดีที่สุดก็ตาม

6. บ้ า อำนาจขั้นสุด!

สำหรับผู้บริหาร ขอให้ทบทวน ตัวเองสักหน่อยว่า.. คุณเป็นนายประเภท “ต้องทำตามที่บอกเท่านั้น” หรือไม่ ?

ถ้าใช่ ก็ขอให้รู้ไว้ตรงนี้เลยว่า คุณกำลังปล่อย พิ ษ ร้ า ย ขั้น รุ น แ ร ง แก่องค์กรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อไหร่ที่องค์กรขับเคลื่อนด้วย “ความกลัว” ไม่ว่าจะกลัวมีความผิด กลัวถูกตำหนิ

กลัวถูกหักเงินเดือน กลัวโดนประจาน หรืออะไรก็ตามแต่ มันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะถ้าเทียบกับการขับเคลื่อนองค์กร

ด้วยพลังบวก ที่ใครๆ ก็อยากแสดงความคิดเห็น อยากทดลองทำอะไรใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่า ถ้าทำพลาดไปแล้วจะโดนด่า

ความกระตือรือร้นของพนักงานย่อมต่างกันอย่างแน่นอนแม้ว่ามันจะง่าย เวลาจะสั่งหรือคอนโทรลอะไร ๆ

โดยใช้ “ความกลัว” เป็นแรงขับ แต่คุณก็ต้องแลก กับการทำให้องค์กรไม่มีชีวิต ไร้ความคิดสร้างสรรค์

ทุกคนอยู่อย่าง ห ว า ด ร ะ แ ว ง กลัวว่าถ้าทำผิดแล้วจะโดนดุ..องค์กรประเภทนี้ ไม่มีทางสร้างอะไรดีๆ ขึ้นได้อย่างแน่นอน!

7. หลงตัวเองสุดขอบโลก

ทราบหรือไม่ว่า คนที่หลงตัวเองนั้น ถือเป็นภัยขั้นสุดต่อองค์กรเลยก็ว่าได้ เพราะอีโก้ที่คับอกจะทำให้คุณ

“มั่น” ในตัวเองจนไม่ยอมฟังความเห็นต่างจากใครหน้าไหนการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

ไม่เพียงทำให้เสียโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์ สิ่งใหม่แล้ว คุณยังขยี้ “ใจ” ที่อยากจะทำงานของคนอื่นๆ ลงจนป่นปี้ !

..อ่านมาถีงตรงนี้ ถ้าใครทบทวนตัวเอง แล้วคิดว่า ตรงกับตัวเองอยู่บ้าง ก็ขอให้เลิกนิสัยเสียๆ เหล่านี้ให้ได้

ก่อนที่อะไรๆ จะ แ ย่ จนเกินแก้ยิ่งโดยเฉพาะผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการทั้งหลาย

อย่าคิดว่าเป็นเจ้าของแล้วจะทำอะไรก็ได้ ลองทบทวนตัวเอง และเปลี่ยนเสียก่อนที่ธุรกิจพังคามือ

เพราะไม่ยอมเลิกพฤติกรรม แ ย่ ๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!

 

ขอบคุณ : m a r k e t i n g o o p s