10 เทคนิคทำเงินให้งอกหงอยเพิ่มในกระเป๋า ฉบับมนุษย์เงินเดือน

ทำงานหนัก งานเยอะ จุกจิก วุ่นวาย แต่รายได้สวนทาง ถึงขนาดที่บางคนอุทานว่า “นี่เงินเดือนหรือเงินทอน”

สิ่งเหล่านี้สะท้อนความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์เงินเดือนได้อย่างดี สถิติของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่

อยู่ในภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง บางคนเดือนชนเดือนก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่ไม่ถึงครึ่งเดือนก็แทบจะไม่มีกินกันแล้ว

1.เก็บแต่เงินเหรียญเท่านั้น

อย่ าดูถูก พ ลั ง ของเงินเหรียญเด็ดขาด เหรียญ 1 บาท2 บาท 5 บาท 10 บาท ลองเก็บให้ได้รวมๆได้จำนวนมาก

เมื่อไหร่ก็ได้นับกันจนเมื่อยนิ้วแน่ ถามว่าจะเก็บเหรียญพวก

นี้ยังไงดี วิธีก็ไม่ย าก ให้เราเอาเงินที่ได้จากการใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเงินทอนจากค่ารถ ค่าข้าวต่างๆ ส่วนใหญ่

มีทั้งแบงค์และเหรียญรวมกันมา แยกไปเลยเอาแบงค์ไปใช้

แต่เหรียญทุกบาททุกสตางค์เก็บเอาไว้ห้ามใช้ วิธีนี้ไม่เห็นผลทันทีแต่จะเห็นผลในระยะยาว และที่สำคัญ ไม่ทำให้เรา

รู้สึกอึดอัดเรื่องการใช้เงินในแต่ละวันด้วย

2.ออมเงินตามวันที่

การออมเงินตามวันที่ใช้ได้ทั้งแบบ 365 วันและแบบ 30 วันวิธีการก็คือเก็บเงินตามวันที่ เช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2

เก็บ 2 บาท ไปเรื่อยๆ จนครบ 30วัน ใน 1 เดือน เราจะมีเงิน

จากวิธีนี้เพิ่มขึ้น 465 บาท ดูเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เยอะแยะอะไรเลย แถมบางคนยังบอกอีกว่าวุ่นวายถ้างั้นก็เอาเงิน 400-500

มาเก็บไว้เลยไม่ดีกว่าเหรอ แต่อย่ าลืมว่าวิธีนี้คือการฝึกวินัย

การออม ถ้าคุณบอกว่าเก็บเงินมาเลยเดือนละ 400-500 อันนี้

ก็ได้เหมือนกัน แต่คำว่าเงินออมคือเงินที่เราจะไม่เอามาใช้จนกว่าจะจำเป็นจริงๆ

3. ออมเงินเท่าค่ากาแฟ

ไม่ปฏิเสธว่ารายจ่ายของมนุษย์เงินเดือนส่วนหนึ่งหมดไปกับค่าชา กาแฟ ยิ่งแบรนด์ดังราคาก็ยิ่งแพงตามไปด้วย แต่ว่าบาง

คนก็เลิกดื่มไม่ได้ ต้องซื้อ ทุกวัน แถมบางวันกินวันละ 2-3 แก้วเลยก็มี และวิธีการออมเงินเท่าค่ากาแฟถ้าหากลองคิดดูเล่น ๆ

ถ้าเราซื้อกาแฟแก้วละ 60 บาททุกวัน ใน 1 สัปดาห์ (5วันที่ทำงาน)มีรายจ่ายส่วนนี้ 300 บาท ภายใน 1 เดือนทำงานประมาณ 20 วัน

(จันทร์-ศุกร์) รายจ่ายค่ากาแฟประมาณ 1,200 บาทเลยนะ

4. แบ่งเงินใช้ตามวัน

เช่น เราตั้งเป้าจะใช้เงินไม่เกินวันละ 150 บาท ก็แยกเงินออกมาไว้เลย หรือแบ่งเงิน 150 บาท ออกเป็น 30 ถุง สำหรับใช้ 1 เดือน

แล้วใช้แค่เท่าที่มี ถ้าวันไหนเงินเหลือก็เอามาหยอดกระปุกเก็บ

ออมเพิ่มได้อีก

5. เปิดบัญชีเงินฝากประจำ

ไม่ว่าจะเป็นแบบฝากประจำ 24 เดือนหรือ 36 เดือน ก็ได้หมดเลยวิธีนี้อาจไม เพิ่มรายได้ภายใน 30 วัน แต่วิธีนี้ให้ผลตอบแทนดีโดย

อัตราผลตอบแทนประมาณ 2.25-3% ต่อปี เป็นการบังคับให้เราต้องนำเงินไปฝากธนาคารทุกเดือน เดือนละเท่าๆ กัน ยิ่งฝากเยอะ ฝาก

นานมากเท่าไร ก็ยิ่งได้ด อ ก เ บี้ ย เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น

6. เพิ่มเงินด้วยสูตร 25/30/45

สิ่งนี้เป็นสูตรจัดการเงินเดือนสำหรับคนบริหารเงินไม่เก่ง สำคัญคือเราต้องมีวินัยพอสมควรถ้าจะเลือกวิธีนี้ โดย 30 % คือเงินออม 45%

คือรายจ่าย ที่ต้องจ่ายทุกเดือน และ 25% คือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่ างง่ายๆ ถ้ามีเงินเดือนเข้าบัญชี 15,000 บาทจะเป็นเงิน

ออม 3,000 บาท รายจ่ายทุกเดือน 4,500 บาท ค่าใช้จ่ายในชีวิตประ

จำวัน 2,500 บาท ประมาณนี้เป็นต้น

7. ซื้อกองทุนรวมที่ไม่เ สี่ ย ง

คนที่ไม่อย ากฝากเงินไว้ในธนาคารเพราะด อ ก เ บี้ ย ต่ำ อาจเลือกวิธีออมด้วยการซื้อกองทุนรวม ซึ่งได้ผลตอบแทนประมาณ 1% กว่าๆ

หรือจะเลือกกองทุนตรา ส าร หนี้ที่ความ เ สี่ ย ง ต่ำก็น่าสนใจ เพราะให้ผลตอบแทนราวๆ 1-3% ต่อเดือนเลย แถมเงินต้นก็ไม่หาย แต่ได้

ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์อีกด้วย

8. ลงทุนขายของออนไลน์

ใครที่อย ากมีรายได้เพิ่มขึ้นชัดเจน ลองเลือกขายของออนไลน์ดู น่าจะเข้ากับยุคสมัยนี้มากที่สุด

แต่ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าสมัย

นี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีเกลื่อนเมือง สินค้าในอินเทอร์เนตมีให้เลือก

มากมาย การที่เราจะขายสินค้าอะไรก็ต้องรู้จักวิธีทำตลาดให้ลูกค้ารู้จักตัวตนของเรา รู้จักร้านค้าของเราในโลกออนไลน์ ซึ่งก็มีวิธีการ

โ ป ร โ ม ท และ ก ล ยุ ท ธ์ การตลาดมากมาย ถ้าเบื่ อการออมก็ลองเลือกลงทุนแบบนี้ได้

9. ซื้อของฟุ่มเฟือยแค่ไหน ก็หยอดกระปุกแค่นั้น

บางทีห้ามไม่ได้ก็ต้องหาวิธีผสมผสานกันไปซะเลย บางคนเลิกไม่ได้กับการช็อปปิ้ง ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นต่างๆ ถ้าห้าม

ไม่ได้ก็เข้าร่วมไปเลย แต่ทุกครั้งที่ซื้อของฟุ่มเฟือยไป ก็ต้องมา

หยอดกระปุกไปตามราคาของด้วย เช่น ซื้อเสื้อผ้ามา 500 ก็ต้องหักใจเอาเงินอีก 500 ไปหยอดกระปุกด้วย แต่เชื่อว่าในกระบวน

การออมเงินเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง วิธีแบบนี้ย ากที่สุดคงไม่มีใคร

ทำได้ แต่ก็ถือเป็นอีกวิธีที่ใครทำตาม รับรองว่าได้ผลมีเงินเป็นก้อนในอนาคตได้แน่นอน

10. ลงทุนในแฟรนไชส์ราคาเบาๆ

ต่ในปัจจุบันการลงทุนกับแฟรนไชส์เป็นวิธีที่น่าสนใจมากที่สุดมีหลายแฟรนไชส์ที่ให้เลือกลงทุน ในแพคเกจสบายๆ ราคาไม่

แรงเกินไปเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 ไปถึงหลัก 10,000 ต้นๆ สำคัญคือแฟรนไชส์เหล่านี้มีอุปกรณ์พร้อมวัตถุดิบให้เราพร้อมเปิดร้าน

ได้ทันที แต่คนลงทุนก็ต้องมีทำเลที่ด้วยเช่นกัน