7 พฤติก ร รมแบบนี้ที่ทำให้ ที่ทำงานไม่ชอบคุณ
1. ใจแคบเท่าพุงมด
ในสถานการณ์ที่เกิด “ความผิดพลาด” คุณมักจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของใครบางคนเสมอ
คนบางคนก็มักจะชี้นิ้วใส่คนอื่นเวลามีอะไรผิด แล้วเขาก็มักจะมีคำตอบให้กับทุกเรื่อง
ที่สำคัญคือ เชื่อแบบผิดๆ ว่าความคิดของตัวเองถูกเสมอ และไม่ค่อยจะยอมฟังใคร
ซึ่งมันน่าจะดีกว่า ถ้าคุณจะยอมเปิดใจรับฟังคนอื่นบ้างเพราะการได้ถกเถียง รับฟังความเห็นกัน
มันสามารถสร้างทีมเวิร์กที่ดีได้ ถึงแม้ว่า บทสรุปในตอนท้ายไอเดียของคุณจะยังเป็นทางดีที่สุดก็ตาม
2. หงุดหงิด ขี้บ่น
ไม่มีใครชอบคนที่มองอะไรก็เห็นแต่เรื่อง แ ย่ ๆ โดยเฉพาะถ้าเห็นแล้วก็มีแต่บ่น ก็จะยิ่งทำให้คนรอบข้าง
รู้สึก แ ย่ ไม่อยากจะทำหรือพัฒนา แก้ไขให้อะไรๆดีขึ้นถ้าคุณมัวแต่หมดพลังงานไปกับการบ่น
หรือคร่ำครวญ นั่นหมายถึง คุณเอาแต่เติมพลังลบให้กับตัวเอง และในขณะเดียวกัน คุณก็กำลังทำให้
ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คุณอีกด้วย
3. ใจเขาใจเราคืออะไร.. ไม่รู้จัก!
สำหรับใครที่ชอบนึกดูถูก มองไม่เห็นหัวใคร หรือพูดถากถางคนอื่นบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย
ขอบอกให้รู้เลยว่า คุณกำลังทำสิ่งที่ แ ย่ และน่ารังเกียจมากในความเห็นของคนอื่น
หนำซ้ำพฤติกรรมแบบนี้ยังอาจส่งผลไปถึงการบ่อน ทำ ล า ย องค์กรเลยก็ได้นะ!
นิสัยปากเสียทำให้คุณดูเป็นคนเกรี้ยวกราดไม่น่าเข้าใกล้ในทางกลับกัน การรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
รู้จักเข้าอกเข้าใจคนอื่นก็จะดึงดูดให้ใครๆ ก็อยากเข้าหาคุณ เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกดี
รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าถ้าเป็นลูกน้องเขาจะยอมทำงานถวายหัวให้กับคุณ หรือถ้าเป็นลูกค้า
เขาก็จะรู้สึกดีที่คุณใส่ใจ และอยากกลับมาใช้บริการบ่อยๆ จนกลายเป็นท็อปแฟนของคุณได้อย่างไม่ย าก
4. ไม่รู้จักอดทนเอาเสียเลย
หนึ่งในตัวแปรที่จะส่งผลให้ธุรกิจประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวนั้น หัวใจสำคัญก็คือ การรู้ว่าตอนไหน
ควรจะกระโดดหรือตอนไหนควรจะตั้งหลักให้มั่นถึงแม้ว่า ความแอ็คทีฟ กระตือรือร้นจะเป็นเรื่องดี
แต่ก็ต้องรู้หรือเลือกจังหวะให้ถูกกับสถานการณ์ได้ด้วยโดยเฉพาะถ้าจะต้องตัดสินใจอะไรสักอย่าง
คุณก็ควรตั้งสติ วิเคราะห์และเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อตัดสินได้อย่างเหมาะสมทริคก็คือ
ให้ลองถอยกลับมาตั้งหลักแล้วทบทวนอย่างรอบคอบ มีความอดทนในการพิจารณาภาพรวมที่ใหญ่กว่า
ซึ่งถ้าคุณใจร้อนหรือด่วนตัดสินใจโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วน ก็อาจส่งผลเสียใหญ่หลวงตามมาได้
5. สัญญาไม่เป็นสัญญา
ใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนเรื่อยเฉื่อย ชอบผัดวันประกันพรุ่ง หรือรับปากอะไรแล้วทำไม่ค่อยจะได้ตามนั้น
ขอให้รู้ว่า คุณกำลังดิสเครดิตตัวเองลงมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้นำองค์กรด้วยแล้ว
พฤติกรรมแบบนี้จะทำให้ใครๆต่างก็ไม่เชื่อถือคุณถ้าอยากจะให้ทุกๆ คนยอมรับหรือเชื่อถือในตัวคุณ
สิ่งพื้นฐานสุดๆ ก็คือ สัญญาอะไรไว้ก็ต้องทำตามที่พูด เมื่อนั้นคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง
เพื่อนร่วมงาน จนถึงลูกค้าก็จะเชื่อมั่นในตัวคุณ
6. ไม่รู้จัก “ยืดหยุ่น”
การรู้จักคิดวิเคราะห์อะไรๆ ได้ด้วยตัวเอง รวมถึงการเปิดรับคำแนะนำ ติชมจากคนอื่นๆ
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด
ได้แม้ว่าการทำตามแผนที่วางไว้จะเป็นสิ่งจำเป็นต่อธุรกิจแต่ถ้าคุณเข้มงวดหรือเถรตรงจนเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นความคิด ความเชื่อ จนถึงการตัดสินใจใดๆ มันก็จะทำให้ “ตัวเลือก” ของคุณมีน้อยเกินกว่า
จะปรับเปลี่ยนได้ทันสถานการณ์ แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลเสียต่อธุรกิจของคุณองค์กรที่ประสบความสำเร็จ
ในบางครั้งก็ต้องมีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ใน วิ ก ฤ ต ิก็อาจพลิกเป็นโอกาสได้
ถ้าคุณสามารถสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ๆ ขึ้นมาได้
7. โมโห ร้ า ย ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ
ต่อให้คุณมี IQ ฉลาดระดับไอน์สไตน์ก็อาจไม่สามารถอยู่รอดในสนามธุรกิจได้ถ้าขาด EQ
หรือ Emotional Quotient ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะจะช่วยให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
เป็นไปอย่างราบรื่นผลเสียของการมีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำเป็นได้ตั้งแต่การสอบตกเรื่องทักษะ
การสื่อ ส า ร ทำ ล า ย ความน่าเชื่อถือของตัวคุณเอง ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวคุณ
ไปจนถึงเป็นพิษต่อธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อทุกคนที่คุณติดต่อด้วยคนที่มี EQ ดีจะสามารถเข้าอกเข้าใจคนอื่น
รู้ทันอารมณ์ของตัวเอง รวมถึงรับรู้ถึงอารมณ์และความต้องการของคนรอบข้างได้อย่างดี
ทำให้คุณรู้วิธีที่จะสร้างแรงจูงใจให้เพื่อนร่วมงานหรือพนักงานทำในสิ่งที่คุณต้องการ..ยิ่งมี EQ
ดีมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถสร้างทีมเวิร์กในฝันให้เกิดขึ้นได้เท่านั้น
ขอบคุณ : m a r k e t i n g o o p s